
จากบ้านนาเข้ามาสู่เมืองกรุง
จากท้องทุ่งมุ่งสู่เมืองมายา
จากบ้านนอกด้วยคราบน้ำตา
จากบ้านมาเพื่อศึกษาหางานทำ
อยู่บ้านนาชีวิตต้องตรากตรำ
งานหนักประจำทำได้ไม่เคยบ่น
เกิดเป็นคนชีวิตต้องอดทน
เหนื่อยเพราะจนข้นแค้นแดนอีสาน
ก้าวเข้ามาสู่ชีวิตสาวโรงงาน
ช่างเบิกบานงานไม่หนักเหมือนที่เป็น
ต้องทำโอหามรุ่งค่ำไม่ลำเข็ญ
ความยากเย็นเป็นเช่นใดใจเต็มร้อย
ยามเหนื่อยล้าเห็นใบหน้าคนรอคอย
ไม่ท้อถอยน้อยใจในชีวิต
จะต่อสู้ฝ่าฟันฟ้าลิขิต
ไม่มีลิมิตอุทิศได้ใจยินยอม
ฝันจะสร้างบ้านใหม่ให้เพียบพร้อม
จะอดออมหอมริบคิดได้ดี
ยังทำงานใจทรนงคงศักดิ์ศรี
แม้จะมีเรื่องร้าย ๆ มิคลายกลัว
ก่อนจากมาได้ร่ำลาผู้เป็นพ่อ
หนูอยากขอพ่อสักครั้งจะได้ไหม
ขอทำงานและร่ำเรียนเหมือนตั้งใจ
จบเมื่อไรจะกลับมาบ้านนาเรา
มองแววตาผู้เป็นพ่อแสนโศกเศร้า
พ่อคงเหงาน่าดูหากหนูต้องไป
พ่ออย่าห่วงและได้โปรดอย่าร้องไห้
แม้อยู่ไกลใจของหนูรู้ว่ามีคนคอย
หากได้หยุดจะรุดมาหาพ่อให้บ่อย
เพราะลูกน้อยคิดถึงพ่อมากจากดวงใจ
หนูจะตั้งมั่นทำให้พ่อชื่นฤทัย
บ้านหลังใหม่อยู่ไม่ไกลในความฝัน
หนูจะเก็บเงินช่วยพี่เพื่อสร้างมัน
จะช่วยกันผลักดันให้เสร็จไว
อยากให้พ่อได้มีโอกาสอยู่บ้านใหม่
ขอแค่ใจของพ่อโปรดรอลูก
ความรักความอบอุ่นพ่อผันผูก
พ่อฝังปลูกให้ลูกเป็นคนดี
จะยังคงยึดมั่นในศักดิ์ศรี
เพราะความดีอยู่ที่ใจใช่หน้าตา
เข้ามาทำโรงงานยักษ์ใหญ่ในซีเกท
ทุกขอบเขตมากด้วยเพื่อนผู้หญิง
แต่ละคนมีน้ำใจให้พักพิง
ไม่แอบอิงจริงใจในมิตรภาพ
ในวิถีชีวิตสาวโรงงาน
ต่างจากบ้านจากพี่น้องจากคนรัก
ด้วยสำนึกที่ดีมีให้ตระหนัก
เพื่อคนที่รักอยู่ดีมีสุขกัน
เป็นกรรมกรห้องแอร์แค่เท่านั้น
ไม่มีวันยิ่งใหญ่ไปกว่านี้
หากไม่ร่ำเรียนคงไม่มีวันจะได้ดี
อยู่แค่นี้สาวโรงงานเล่าขานไป
หกเดือนผ่านไปตัดสินใจเข้าเรียน
ตั้งใจพากเพียรที่จะเรียนทางไกล
ยังคงทำงานและร่ำเรียนต่อไป
จะหนักเหนื่อยเพียงใดใจสู้ดี
อาจารย์บอกว่าต้องใช้เวลาเรียนสองปี
ส่วนค่าเทอมนี้ทางบริษัทจัดสรรให้
เพื่อน ๆ หลายคนลงเรียนพร้อมเพรียงใจ
เพราะสิ่งที่ได้รับจากบริษัทเหนือนับคณา
ในบางวันหนูนั้นได้นอนสี่ชั่วโมง
เพราะต้องไปโรงเรียนก่อนเข้างาน
มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาอาจารย์
คงอีกไม่นานหนูคงจบประสบสงค์
ช่วงวันหยุดพ่วงโอทียี่สิบสี่ชั่วโมง
ยังจรรโลงมีแรงพอขอได้ทำ
ทำแต่งานไม่มีเวลาได้เห็นตะวัน
เป็นประจำทำมากว่าปีแล้ว
หนึ่งปีผ่านไปบ้านหลังใหม่ใกล้เสร็จ
ความสำเร็จใกล้เข้ามาให้ได้เห็น
เหนื่อยมากมายมิเคยคิดว่ามันยากเย็น
ความจำเป็นนั้นเช่นใดใจรู้ดี
เงินทุกเดือนส่งให้พ่อขอแบ่งให้พี่
ตามหน้าที่ซึ่งเคยทำแต่เรื่อยมา
ขอแค่ได้เห็นชีวิตพ่อนั้นสุขอุรา
แม้หนักหนาเพียงใดใจลูกยอม
หลายเดือนผ่านไปน้ำตาไหลริน
เมื่อได้ยินพี่ชายเล่าให้ฟัง
บ้านที่ช่วยกันสร้างและมุ่งหวัง
สวยดุดดั่งกว่าใครในตำบล
พี่บอกว่าเห็นรอยยิ้มพ่อช่างมีสุข
พ่อคงหมดทุกข์หายห่วงในเรื่องนี้
และต่อไปคงได้อยู่พร้อมกันเสียที
คงไม่ต้องมีการลาจากพรากบ้านนา
ขึ้นบ้านใหม่จัดยิ่งใหญ่ในหมู่บ้าน
สุขสำราญประสานใจในพี่น้อง
พี่คนหนึ่งถามหานาปะโอนบอง
ไหนละน้องสุดท้องไม่เห็นมา
หนูขอโทษพ่อจ๋าลางานไม่ได้
งานตัวใหม่เข้ามาซุปฯว่าห้ามหยุด
จะต้องทำตามเป้าหมายให้สิ้นสุด
แล้วค่อยหยุดหลังจากงานเสร็จผ่านไป
ได้สัญญาสงกรานต์หน้าจะกลับบ้าน
ตามแผนการที่วางไว้ในใจมั่น
อยากกลับไปอยู่กับพ่อหลายๆ วัน
ความสุขนั้นแม้แค่ฝันก็เกินพอ
วันเวลาผ่านไปไวเกินคิด
ยังตั้งจิตพาชีวิตกลับไปหาพ่อ
ใจลูกเชื่อว่าพ่อนั้นยังคงรอ
ใจลูกหนอขอกอดพ่อให้ชื่นใจ
นั่งรถทัวร์ถึงบ้านในยามบ่าย
แดดตอนสายเจิดจ้าแสนกล้าแกร่ง
ความอ่อนเพลียเหนื่อยล้าแทบหมดแรง
ก็ยังแฝงไปด้วยพลังกำลังใจ
เห็นใบหน้าชายชราวิ่งมารับ
เคียงคู่กับหลานชายพี่สาวใหญ่
รอยยิ้มพ่อส่งให้มาจรรโลงใจ
สุขฤทัยเมื่อได้กลับมาบ้านนาเรา
เนียงกำปูของพ่อกลับมาแล้ว
เสียงเจิดแจ้วได้ยินเหมือนวันเก่า
พ่อมีสุขทุกข์มลายคงคลายเหงา
ความโศกเศร้าหายไปใจชื่นมืน
อ้อมอกพ่ออุ่นใจหาได้เปรียบ
พ่อดูเนี๊ยบเรียบง่ายมิเคยฝืน
เห็นหลานชายยิ้มร่าแสนระรื่น
เพราะค่ำคืนในวันนี้มีปาร์ตี้กัน
พี่สาวใหญ่มีน้ำใจช่วยยกของ
ยังช่วยน้องประคองใจให้สุขสันต์
คอยพูดคุยให้น้องได้ฝ่าฟัน
อุปสรรคนั้นผันกลายหายเป็นดี
พ่อจูงมือเข้าไปในบ้านใหม่
ช่างยิ่งใหญ่ใจมิเคยคิดสวยอย่างนี้
มองผลงานที่ได้สร้างชื่นชีวี
ความเปรมปรีดิ์ภูมิใจที่ได้ทำ
พ่อบอกพี่ใหญ่พาขึ้นไปดูบนบ้าน
นวลนงคราญดีใจมีห้องประจำ
พี่พาดูทั่วบ้านและแนะนำ
พี่ยังพร่ำพูดสูดลมชมฝืมือ
พี่บอกว่าให้พักผ่อนตามสบาย
ให้ผ่อนคลายก่อนปรึกษาและหารือ
อย่าได้คิดเรื่องทุกข์ใจให้เจิดฉือ
เพราะมันคือเรื่องกินถิ่นบ้านนา
รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพ
เพื่อพร้อมรับญาติพี่น้องที่มาหา
แสนสบายตัวสดชื่นหมื่นอุรา
ก็เพราะว่าได้อยู่คู่ครอบครัว
เดินมานั่งใต้ถุนบ้านสำราญใจ
นั่งชิดใกล้กับพ่อขอข้างตัว
ความอบอุ่นใจไร้ซึ่งสิ่งหวาดกลัว
จากคนชั่วที่หมายปองจ้องทำร้าย
ใจปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับพ่อ
เนียงละออนั่งเคียงจิตนิมิตรหมาย
มีพี่น้องแวะมาหาเป็นประปราย
โฉมประกายมิหน่ายนั่งฟังพูดกัน
ขึ้นไปเอาของฝากลงมาแจก
ได้จำแนกแยกไว้และจัดสรร
ให้ทุกคนเพราะใจอยากจะแบ่งปัน
เพียงเท่านั้นไม่มีใดใจต้องการ
เหล่าพี่น้องสรรเสริญและเยินยอ
ว่าลูกพ่อใจบุญในสุนทาน
เป็นลูกดีมิเคยมีเรื่องล้างผลาญ
นวลนงคราญกตัญญูเพราะรู้คุณ
สาวบ้านนาธรรมดามีสำนึก
ยังรำลึกนึกได้ในส่วนบุญ
มีโอกาสชอบช่วยเหลือสนับสนุน
ช่วยเป็นทุนอุ่นใจในบ้านเรา
พ่อถามว่าเมื่อไรจะกลับมา
โอ้ลูกยามาอยู่บ้านให้หายเหงา
บ้านของเรามีแต่สุขไร้โศกเศร้า
พี่น้องเราอยู่พร้อมหน้าเกินค่าใจ
บอกพ่อว่ามีนาหน้าหนูเรียนจบ
คงประสบพบหมายที่ตั้งไว้
แค่ปีเดียวความหวังยังไม่ไกล
บอกพ่อไปหนูจะกลับหลังรับวุฒิ
เจ็ดวันอยู่บ้านสุขใจไร้ความเหงา
ช่วยบรรเทาได้บ้างไม่สิ้นสุด
ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายของนงนุช
มักจะผุดขึ้นกลางร้างบ้านมา
ในวันนี้พ่อแก่ชราลงไปมาก
ความลำบากที่เคยผ่านเหลือคณา
แม้ทุกข์ใดพ่อก็ได้สู้ฟันฝ่า
ถึงแม้ว่าตัวคนเดียวเรี่ยวแรงพอ
ถึงเวลาต้องกลับมาเมืองกรุง
จากบ้านทุ่งมุ่งสู่เมืองหลวงต่อ
มองใบหน้าผู้เป็นพ่ออย่างจดจ่อ
พ่อโปรดรออีกหนึ่งปีลูกนี้สัญญา
ญาติพี่น้องผู้เป็นพ่อเดินมาส่ง
นวลอนงค์น้ำตาพรากบนใบหน้า
หากเลือกได้ไม่ขอพรากจากบ้านมา
ตัวลูกยาขอได้อยู่ดูแลพ่อ
พี่สาวใหญ่บอกเอาไว้ต้องเข้มแข็ง
ให้กล้าแกร่งแรงใจอย่าได้ท้อ
จงต่อสู้สร้างฝันของเนียงละออ
พี่และพ่อจะเฝ้ารอน้องกลับมา
เศษน้ำหมากพ่อปัดเป่าในอาคม
ดั่งสายลมที่คอยป้องและรักษา
มีมนต์ขลังเร้นลับเหลือคณา
ในคาถาที่พ่อว่าภาษาขะแมร์
พนมมือไหว้ซบอกพ่อหนูขอลา
อีกไม่ช้าหนูจะกลับมาดูแล
ดั่งคำมั่นที่ตั้งไว้อย่างแน่วแน่
ขอเพียงแค่พ่อไม่ท้อรอลูกยา
กลับมาทำโรงงานเหมือนวันก่อน
โฉมบังอรยังทำโออยู่เรื่อยมา
เพียงเก็บเงินและดำเนินการศึกษา
โดยคาดว่าจบมาแล้วมีแนวทางที่มั่นคง
ยังใช้ชีวิตในเมืองกรุงเหมือนใครเขา
แม้จะเหงาบ้างในบางครั้งยังดำรง
ตั้งใจทำงานพร้อมด้วยใจที่ซื่อตรง
โอ้โฉมยงนงคราญมิหน่างหน่าย
หกเดือนผ่านไปใจยังสู้
เมื่อเช้าตรู่โทรทางไกลพ่อไม่สบาย
รีบลางานกลับบ้านในตอนบ่าย
คงจะหายกังวลประดลได้เห็น
กลับมาบ้านครั้งนี้ไม่เหมือนวันนั้น
พี่น้องกันดูเศร้าหมองและยากเย็น
ภาพของพ่อนอนป่วยไข้แสนลำเข็ญ
ความซ่อนเร้นในแววตาหาได้เจอ
โอ้พ่อจ๋าหนูกลับมาหาพ่อแล้ว
เสียงเจิดแจ้วพูดคุยและพร่ำเพ้อ
อยากให้พ่อได้เห็นหน้าและเจอะเจอ
ไม่ละเมอเพ้อรำพันมันเป็นจริง
นั่งข้างเคียงเตียงพ่อขอได้มอง
ช่วยประคองป้อนข้าวไม่อยู่นิ่ง
ช่วยเช็ดตัวให้พ่อมิเคยประวิง
ขอแอบอิงพิงใจได้กระทำ
พ่อเป็นยังไงบ้างในวันนี้
ชื่นชีวีบ้างไหมได้พูดซ้ำ
เสียงแผ่วเบาตอบรับไม่เป็นคำ
พ่อยังพร่ำพูดไปใส่ใจดู
จับใจความได้ว่าพ่อพูดอย่างไร
พ่อห่วงใยใส่ใจในตัวหนู
ความกล้ำกลืนในใจหามีใครรู้
หนูอยากอยู่ดูแลพ่อต่อไปนี้
พี่สาวใหญ่เรียกให้ลงมาหา
พร้อมบอกว่าอาการพ่อไม่สู้ดี
คงเจ็บป่วยและเป็นไข้อยู่อย่างนี้
คงไม่มีหมอใดแก้ไขได้
พี่บอกว่าไข้ของพ่อไม่ธรรมดา
หมอบอกว่าโรคชรามิวางวาย
แถวบ้านนอกบอกว่าเป็นโรคร้าย
อันตรายถึงตายได้ในไม่ช้า
น้ำตาไหลเมื่อได้ยินที่พี่เล่า
ความโศกเศร้าเกินบรรยายเหลือคณา
อดไม่ได้จึงถามไถ่พี่สาวว่า
ตัวพ่อหนาเป็นอะไรใจยังงง
พี่บอกว่าตัวพ่อจ๋าถูกคุณไสย์
จากคนใจดำอำมหิตไม่ซื่อตรง
พ่อบอกลูกทุกคนอยากให้ปลง
พ่อยังคงดำรงไม่นานตามโชคชะตา
นั่งร้องไห้คนเดียวใจแทบขาด
ดั่งฟ้าฟาดกลางใจในดวงนภา
ความเคียดแค้นอยู่ในใจเจ็บนักหนา
อยากรู้ว่ามันเป็นใครใจโหดร้าย
เดินกลับไปนั่งเคียงข้างผู้เป็นพ่อ
นวลละออร้องไห้ใจแทบสลาย
ไม่พูดคุยยังคงมองพ่ออยู่เดียวดาย
พ่ออย่าตายจากไปไกลตัวหนู
พ่อเอื้อมมือจับใบหน้าอย่าร้องไห้
พ่อไม่เป็นไรอย่าได้ห่วงและพร่ำพรู
ขอให้ลูกจงสร้างฝันเพื่อเชิดชู
จะได้ปูหนทางไกลให้ชีวิต
นั่งก้มหน้าน้ำตายังไหลริน
ยังมิสิ้นหลายอย่างที่ต้องคิด
อยากจะทำหลายอย่างที่ถูกผิด
แต่ตั้งจิตให้อภัยใจคนชั่ว
สามวันผ่านมาพ่ออาการบรรเทา
ความโศกเศร้าหายไปมิหมองมัว
ความหวาดระแวงที่เคยมีอยู่ในตัว
สิ่งที่กลัวหายไปในพริบตา
พ่อเดินได้เหมือนไม่เป็นไรในวันนี้
พ่อดูดีกว่าเก่าที่ผ่านมา
หรือเป็นเหมือนที่เขาบอกเล่าว่า
ตัวพ่อจ๋าสามวันดีสี่วันไข้
พี่สาวใหญ่บอกว่าอย่าได้ห่วง
พ่อนี้ดวงแข็งแกร่งอย่าได้เป็นใย
แต่อยากให้ปะโอนบองจงทำใจ
ไม่ว่าไรจะเกิดอย่าละเมิดฝัน
วันต่อมาเก็บเสื้อผ้าเข้าเมืองกรุง
ยังคงมุ่งเป้าหมายที่มาดมั่น
จะตั้งใจทำให้ได้ในสักวัน
เพียงเท่านั้นไม่มากมายใจหยั่งรู้
พี่บอกว่าในวันนี้ต่อไป
หากพ่อไข้ไม่สบายดั่งที่เป็นอยู่
จะไม่แจ้งให้พี่น้องและตัวหนู
ได้รับรู้ความเป็นไปในความจริง
พี่บอกว่าไม่อยากให้น้องเสียงาน
แม้เหตุการณ์เลวร้ายอย่าได้ทิ้ง
จงทำงานและตั้งใจอย่าประวิง
ความเป็นจริงในชีวิตจิตมิวาย
พี่บอกว่าให้ตั้งใจกลับไปทำงาน
รีบกลับบ้านเมื่อเรียนจบสบเป้าหมาย
อย่ากังวลเรื่องพ่อให้ผ่อนคลาย
คงไม่ร้ายเกินไปในวันนี้
ก่อนจากมาได้ร่ำลาผู้เป็นพ่อ
จะไม่ท้อขอให้พ่อจงเปรมปรีดิ์
อีกไม่นานและไม่เกินในหนึ่งปี
ตัวลูกนี้จะกลับมาตามสัญญา
พ่อยังเป่าคาถาให้เหมือนเดิม
ยังคงเจิมมนต์ขลังให้รักษา
อยากให้ลูกหมดทุกข์สุขอุรา
แม้หนักหนาเพียงใดใจพ่อทน
กลับมาทำงานเหมือนดั่งที่เคยเป็น
ก็ดั่งเช่นชีวิตคนต้องดิ้นรน
ถึงจะเหนื่อยยากลำบากมิเคยบ่น
เกิดเป็นคนเลือกไม่ได้ใจต้องสู้
ยังทำงานส่งเงินให้ทางบ้าน
ได้ไว้วานพี่สาวใหญ่ให้คงอยู่
ช่วยดูแลพ่อแจ้งข่าวให้รับรู้
เพราะตัวหนูจะตั้งใจในความฝัน
สามเดือนผ่านไปโทรทางไกลมาอีก
มิอาจปลีกปฏิเสธได้ให้กลับกัน
พ่อบอกว่ามีเรื่องพูดที่สำคัญ
เรื่องแบ่งปันทรัพย์สินที่ดินทอง
มาถึงบ้านพร้อมเพรียงกันทุกคน
ใจกระวนร้อนรนในพี่น้อง
แต่ละคนคาดหวังและหมายปอง
จะได้ครองที่ใดใจตั้งหมาย
พ่อพูดไปในสิ่งที่ต้องการ
ขอยกบ้านสองหลังให้น้องไว้
ขอน้องพี่จงพร้อมเพรียงด้วยใจ
จงสละให้ขออย่าได้ใจขัดข้อง
น้ำตาไหลรินเมื่อได้ยินที่พ่อบอก
มันช้ำชอกในดวงใจของพี่น้อง
ไม่มีอะไรที่หนูอยากได้ครอบครอง
อยากขอร้องพ่ออย่าพูดจะได้ไหม
นั่งคร่ำครวญร้องไห้เพียงคนเดียว
ใจห่อเหี่ยวคิดไปในทางไกล
หากวันหนึ่งพ่อต้องพรากจากหนูไป
โอ้ดวงใจหนูคงตรมทรมอุรา
พ่อบอกว่าหากไม่มีพ่อในวันนี้
ขอพวกพี่โปรดช่วยดูแลตัวน้องยา
จงช่วยปกป้องดูแลและรักษา
ให้เจ้ากานดามีชีวิตประสิทธิ์ผล
พี่สาวใหญ่นั่งชิดใกล้และได้ปลอบ
ไม่มีคำตอบอันใดในตัวคน
ความจริงในข้างหน้าจะส่งผล
จงอดทนอย่ากังวลและเสียใจ
พ่อบอกว่าลูกยายังเด็กมาก
อาจลำบากขอพี่น้องช่วยป้องภัย
อย่าได้มีเรื่องช้ำทรวงปวดฤทัย
ทำให้ใจดวงกมลทนไม่ได้
ในวันนี้แววตาพ่อช่างแสนเศร้า
พ่อปวดร้าวเมื่อรู้อีกไม่ไกล
มันต้องมีสักวันที่พ่อต้องไป
ความห่วงใยใจพ่อนั้นมันมากมาย
เข้าไปนั่งใกล้ชิดติดกับพ่อ
หนูอยากขอพ่อสักครั้งจะได้ไหม
พ่ออย่าพูดแบบนี้อีกต่อไป
หนูไม่ต้องการอะไรไปกว่านี้
ขอเพียงพ่อนั้นหนอยังคงอยู่
ยังเคียงคู่ครอบครัวชั่วชีวี
ลูกทุกคนต้องการพ่อทุกนาที
ขอแค่มีเพียงพ่อเกินพอแล้ว
ได้ร่ำลาพ่อจ๋ามาทำงาน
นวลนงคราญตั้งใจให้แน่แน่ว
หากไม่มีอะไรให้คลาดแคล้ว
ยอดดวงแก้วคงได้ทำดั่งฝันไว้
มีเพื่อนพ้องที่ทำงานคอยปรึกษา
ยามมีปัญหาและให้กำลังใจ
อย่าได้ท้อเพื่อนหนอจงสู้ไว้
ไม่มีใครจะทำได้หากใจอ่อนแอ
เพื่อนบอกว่าทุกปัญหาที่พบเจอ
ขอเพื่อนเกลอจงอดทนหนทางแก้
จงต่อสู้ฝ่าฟันอย่ายอมแพ้
แม้อ่อนแออย่าได้ท้อต่อโชคชะตา
ต้องทำงานพ่วงโอทีแทบทุกครั้ง
จนกระทั่งช่วงเปลี่ยนกะหมดเวลา
แล้วถึงได้หยุดพักในบางครา
เหนื่อยนักหนาทนได้ในชีวิต
ช่วงวันหยุดแห่งชาติมิพลาดโอ
เงินใหญ่โตขอแค่ฝันและได้คิด
จะตั้งใจเก็บเล็กน้อยผสมนิด
เพื่อชีวิตที่ดีกลับไปในบ้านนา
ค่ำคืนนี้ต้องเข้างานในกะดึก
ยังสำนึกระลึกได้พี่โทรมา
ก่อนเข้างานอยากให้แวะเวียนไปหา
ถึงน้องยาอยากเห็นหน้ามาหลายวัน
ต้องพักผ่อนเข้านอนในตอนบ่าย
อยากผ่อนคลายแต่มีพ่อมาเข้าฝัน
ภาพที่เห็นซึ่งตัวพ่ออยู่ในนั้น
พ่อรำพันร่ำไห้ใจแทบขาด
ถามพ่อว่าร้องไห้ไปทำไม
พ่อเป็นอะไรน้ำตาไหลน่าประหลาด
ภาพของพ่อช่างเจ็บลึกเหมือนมีดบาด
ฉุดกระชากหัวใจให้ต้องตื่น
นั่งครุ่นคิดกับความฝันที่ผ่านมา
ดูเหมือนว่าเป็นความฝันหาใช่อื่น
แต่ทำไมพ่อร้องไห้สุดกล้ำกลืน
หากดึกดื่นฝันอย่างนี้มิใช่จริง
ตัดสินใจแวะไปหาพี่สาว
เล่าเรื่องราวในความฝันให้ได้ติง
ใจร้อนรนกระวนกระวายมิอยู่นิ่ง
กลัวเป็นจริงแน่แท้หรือแค่ฝัน
พี่สาวตกใจได้ยินที่เล่ามา
ก็เพราะว่าพี่นั้นฝันเหมือนกัน
นั่งคบคิดไปด้วยในพัลวัน
ว่าสิ่งนั้นเป็นเช่นไรใจใคร่ครวญ
เสียงโทรศัพท์ดังในห้องพี่สาว
ความว่างเปล่าส่งข่าวแสนรัญจวน
พี่สาวตอบรับอย่างนุ่มนวล
และคร่ำครวญไปด้วยงุนงวยใจ
พี่สาววางโทรศัพท์ตอบรับค่ะในไม่ช้า
ปล่อยเวลาน่าฉงนและสงสัย
ไม่มีคำพูดออกมาจากปากใด
โอ้พี่ใยเกิดอะไรขึ้นรีบบอกมา
ไม่มีพ่อต่อนี้ไปนะน้องรัก
เราประจักกลับบ้านในไม่ช้า
พ่อสิ้นแล้วอย่ามัวเสียเวลา
รีบเก็บผ้ากลับบ้านนาให้เร็วไว
ยังไม่เชื่อกับคำบอกของพี่สาว
กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงหรือไร
แต่ต้องรีบกลับบ้านให้ทันใจ
คงจะได้เดินทางในคืนนี้
พี่สาวบอกนี่ไม่ใช่เรื่องโกหก
ไม่ใช่เรื่องตลกเหมือนที่เคยมี
คือความจริงที่ต้องรับเสียโดยดี
เพราะต่อนี้ไม่มีพ่ออยู่ในโลก
นั่งร้องไห้ครู่ใหญ่ในต่อมา
เจ็บอุราแสนเหงาและเศร้าโศก
ดั่งฟ้าถล่มลมพัดให้ฟ้าโยก
เพราะว่าโชคไม่มีพลีชีวีพ่อ
ไม่มีคำพูดใดจากใจออกมา
คงมีเพียงน้ำตาที่รินไหลดั่งน้ำบ่อ
พ่อจากไปไม่ได้ทำเหมือนที่ขอ
บอกให้รอไม่นานนักจะกลับมา
โทรเข้าบริษัทแจ้งความในจำนง
และยังคงพูดคุยเพื่อบอกลา
ตัวหนูนี้ต้องกลับไปที่บ้านนา
ก็เพราะว่าพ่อจากไปไกลเกินคาด
นั่งรถทัวร์กลับบ้านอย่างเร็วไว
เพราะว่าใจเจ็บช้ำดั่งฟ้าฟาด
ไม่เคยคิดสิ่งที่เกิดนั้นประหลาด
เหมือนคมบาดลึกในใจไม่เคยมี
นั่งร้องไห้ตลอดทางบนรถทัวร์
ใจหมองมัวแสนเศร้าเหงาชีวี
ความเจ็บช้ำลึกในดวงฤดี
ว่าแต่นี้ต่อไปไม่มีพ่อ
รถโดยสารจอดหน้าบ้านในตอนเช้า
มีพี่สาวใหญ่นั้นหนามายืนรอ
มองบรรยากาศในบ้านอย่างจดจ่อ
โลงศพพ่อตั้งเด่นในเต็นท์งาน
โผ่เข้ากอดพี่สาวใหญ่ร้องไห้สะอื้น
มิอาจฝืนเก็บไว้ในใจนาน
พ่อจากไปในความจริงตลอดกาล
ใจนงคราญไม่มีพ่อต่อนี้ไป
พี่พาน้องเดินไปกราบโลงศพพ่อ
เพื่อได้ขอขมาดั่งที่ว่าไว้
ไร้เรี่ยวแรงที่จะพูดมันออกไป
นั่งร้องไห้ข้างโลงศพประจบช้ำ
พี่สาวใหญ่นั่งปลอบใจไปด้วย
หวังจะช่วยให้หายโศกและหยุดพร่ำ
ทุกชีวิตย่อมเป็นไปตามเวรกรรม
ใครกระทำฉันใดต้องได้เจอ
ยังร้องไห้ไม่หยุดทุบโลงศพ
หนูอยากพบพ่อสักครั้งจะได้ไหม
ไหนสัญญาที่พ่อเคยให้ไว้
แล้วทำไมพ่อจึงพรากจากสัญญา
แค่สองเดือนหนูก็เรียนจบแล้ว
ยังแน่แน่วว่าจะกลับมาบ้านนา
ทำไมพ่อต้องด่วนจากไปในอุรา
ตัวลูกยาจะอยู่กับใครไม่รู้เลย
ภาพเด็กสาวคร่ำครวญเหมือนคนบ้า
ความโศกาเปลี่ยนชีวิตมิอย่างเคย
เธอร้องไห้เจ็บช้ำอย่างเปิดเผย
ใครเล่าเอยจะดูแลแม่กานดา
ต่อนี้ไปคงไม่มีพ่อเหมือนวันก่อน
โฉมบังอรดูเงียบเหงาในเอกา
จะกลับไปอยู่กับใครในบ้านนา
ตั้งใจว่ากลับเมืองกรุงมุ่งสร้างฝัน
แม้เวลาผ่านไปมาหลายปี
ใจลูกนี้ไม่เคยลืมในวันนั้น
ยังคร่ำครวญคิดถึงพ่อทุกคืนวัน
เพราะพ่อนั้นคือดวงใจในชีวี