เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันตื่นสายเป็นพิเศษ โชคดีหน่อยที่ได้หยุดหนึ่งวัน จึงมีอะไรที่ต้องทำให้เสร็จหลายอย่าง สิ่งแรกก็คือซักผ้าและรีดผ้าให้เสร็จ เพราะเดือนมิถุนายนนี้คนรักก็จะเปิดเทอมแล้ว จะได้มีเสื้อผ้าที่รีดเรียบร้อยไว้ใส่ทำงาน
ซัมเมอร์ในปีนี้ฉันและคนรักไม่ได้กลับไทย เพราะมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการหลายอย่าง ดังนั้นคนรักจึงเลือกที่จะสอน เพื่อเก็บเงินสร้างฐานะครอบครัว ส่วนฉันเองก็ต้องสอบสัญชาติให้เสร็จและก็ทำงานในส่วนอื่น ๆ ที่ค้างคาเอาไว้ เราสองคนแม้จะมีหน้าที่การงานรับผิดชอบที่ไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเมื่อใดที่ได้หยุดพร้อมเพรียงกัน เราต่างก็มีกิจกรรมดี ๆ ทำด้วยกันอยู่เสมอ
ชีวิตคู่ของฉันมีอะไรใหม่ ๆ ให้เรียนรู้ตลอด แม้เราสองคนจะแต่งงานกันหลายปีแล้ว และไม่มีลูกให้เชยชม แต่เราสองคนไม่ได้รู้สึกเหงาเศร้าเสียใจอะไร เราปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามกฏธรรมชาติ ทุกวันนี้ยอมรับว่าชีวิตอิสระเป็นอย่างมาก เราสองคนไม่ใช่นักเที่ยวนักดื่มแต่อย่างใด แต่เราสองคนชอบชีวิตง่าย ๆ สบาย ๆ เราสองคนชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบบันทึกเรื่องราวทุกอย่างในความทรงจำ ที่สำคัญเราสองคนชอบอะไรที่ไม่ต้องซีเรียสมากมาย เวลาอยากไปไหนมาไหน ก็ไปได้ตลอด ไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ ไม่ต้องห่วงภาระข้างหลัง เวลาอยากไปนั่งทานอาหารอร่อย ๆ หรือมีเพื่อน ๆ แวะมาเที่ยวบ้าน เราสองคนก็มีเวลาสนุกและเทคแคร์เพื่อนรักได้เต็มที่ หากจะนอนดึกอ่านหนังสือเขียนงาน เราก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าคนข้างหลังจะน้อยอกน้อยใจ
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาจัดว่าเป็นวันพิเศษที่สุดสำหรับฉันและคนรัก เพราะเราสองคนตั้งใจจะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวเจ้ากัมโบ ซึ่งเจ้ากัมโบพักอาศัยอยู่กับครอบครัวของมิสซูซาน และอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านของฉันนัก ฉันกับคนรักขับรถมารอมิสซูซานที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ หมู่บ้าน โดยที่มิสซูซานขับรถเก๋งมารับเราสองคน และก็ให้พวกเราขับรถตามหลังไปติด ๆ บ้านของมิสซูซานเป็นบ้านของคนคันทรีที่อยู่นอกเมืองออกไป ซึ่งมิสซูซานทำงานอยู่ในคณะเดียวที่คนรักสอนหนังสืออยู่
พอรถวิ่งผ่านเข้าถนนลาดยางขนาดเลนส์เดียว ฉันกับคนรักก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองธรรมชาติรอบข้าง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้และความเป็นคันทรีของมลรัฐโอกลาโฮม่า เราสองคนชอบชีวิตแบบนี้ที่สุด เงียบสงบ ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีภูเขาอยู่ไม่ไกลนัก มีบึงกว้างที่คอยให้ความชุ่มชื้น เมือคนรักเลี้ยวรถเข้าไปในซอยหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก บนเนื้อที่ร้อยกว่าเอเคอร์ ทำให้ฉันและคนรักอดชื่นชมเจ้าของฟาร์มแห่งนี้ไม่ได้ เพราะมีต้นไม้ห้อมล้อมไปหมด ดูชุ่มชื้นไม่เหมือนพื้นที่บางแห่งของมลรัฐนี้เลย
ครั้งแรกที่ก้าวเข้ามาในบ้านประจำครอบครัวของมิสซูซาน ซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าอายุห้าสิบกว่าปีได้ ฉันรู้สึกอบอุ่นใจอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน มิสซูซานต้อนรับฉันและคนรักอย่างดี โดยที่มิสรอนดาพี่สาวของมิสซูซานและสามีเข้ามาต้องรับและพูดคุยด้วย
บ้านหลังนี้เป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลที่ครอบครัวมิสซูซานได้รักษาเอาไว้ ซึ่งมิสรอนดาและสามีอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ สภาพภายในบ้านเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสามัคคีของคนในครอบครัวที่ช่วยกันดูแลรักษามรดกตกทอดทุกอย่างที่บรรพบุรุษมอบให้เป็นอย่างดี ฉันเห็นแล้วก็อดชื่นชมในความดีต่าง ๆ ที่ครอบครัวนี้มีให้กันไม่ได้ ทุกคนช่วยกันดูแลสิ่งที่มีค่าที่สุดในครอบครัวเอาไว้ เพื่อหวังว่าลูกหลานในอนาคตจะมีโอกาสได้เห็นได้รู้ถึงภาพพื้นเพของบรรพบุรุษ
หลังจากนั้นมิสซูซานและพี่สาวก็พาฉันกับคนรักเดินออกมาที่เรือนด้านนอก ซึ่งก็ทำให้ฉันตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อมีโอกาสได้รู้จักกับครอบครัวเจ้ากัมโบ เพราะเจ้ากัมโบไม่ใช่คนที่ไหน หากแต่เป็นน้องหมาที่น่ารักประจำครอบครัวมิสซูซานนั่นเอง
ระหว่างที่เดินออกไปที่ชานเรือน มีน้องหมาหลายตัววิ่งมาต้อนรับฉันและคนรัก บ้างก็วิ่งมาทักทาย ถ้าพวกเขาพูดภาษามนุษย์ได้ ก็คงจะถามฉันกับคนรักหลายอย่าง ฉันกับคนรักนั่งทักทายน้องหมา ลูบหลังเบา ๆ และก็ถามไถ่เหมือนที่ทักทายคนด้วยกัน


แต่ก่อนฉันกับคนรักเคยคิดจะหาน้องหมามาเลี้ยงกันนานแล้ว แต่เราสองคนไม่มีโอกาสได้ทำสักที เพราะน้องหมาที่ขายกันนั้น ราคาแพงแถมไม่ใช่น้องหมาที่เราโปรดปรานเสียด้วย ฉันเกิดและเติบโตในครอบครัวที่ไม่เคยมีการซื้อขายน้องหมากัน พอจะมีน้องหมาและต้องซื้อขายกัน ก็รู้สึกไม่ค่อยชอบนัก ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนขี้เหนียวหรือไม่มีเงินจ่าย ฉันเพียงแค่รู้สึกว่า น้องหมาก็เหมือนกับคนเรา ที่มีชีวิตมีจิตใจ ต้องการบ้านอบอุ่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่สินค้าที่ซื้อขายให้เชยชมเหมือนสิ่งของ และด้วยเหตุนี้ทำให้ฉันไม่ต้องการซื้อน้องหมามาเลี้ยงเลย และจะรับเลี้ยงน้องหมาที่มีคนแบ่งปันให้ช่วยเลี้ยงเท่านั้น
ฉันเคยเลี้ยงน้องหมาสมัยเด็ก ๆ เคยแบ่งปันน้องหมาให้เพื่อนบ้าน และเคยมีเพื่อนบ้านแบ่งปันน้องหมาให้ฉันได้เลี้ยงเช่นกัน ชีวิตของฉันยังผูกพันกับการแบ่งปันกันมากกว่าการซื้อขาย ทำให้ฉันอยากมีน้องหมาที่ไม่ต้องซื้อ แต่เป็นน้องหมาที่เจ้าของแบ่งปันให้ฉันได้เลี้ยงด้วยใจ และก็ด้วยความรักที่ฉันกับคนรักพร้อมที่จะดูแลน้องหมาให้มีชีวิตที่สุขสบายกับครอบครัวเล็ก ๆ ของเราสองคน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ฉันขุดใบสะระแหนก่อใหญ่ใส่กระถางสองใบไปฝากมิสซูซานและครอบครัว และบังเอิญช่วงนั้นน้องหมาของมิซซูซานคลอดลูกพอดี จึงได้ถามคนรักของฉันว่า สนใจที่จะรับน้องหมาไปเลี้ยงไหม เพราะมีอยู่หลายตัว ในวันนั้นคนรักของฉันตอบรับอย่างเร็ว เพราะแบ่งปันกันเลี้ยงน้องหมา เราสองคนยินดีเสมอ แต่ถ้าซื้อขายเราสองคนต้องคิดหนัก เพราะไม่ค่อยชอบชีวิตแบบนี้
ฉันบอกขอบคุณมิสซูซานอย่างเร็ว และถามเธอว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรไหม ซึ่งฉันหมายถึงว่าสังคมคนอเมริกันเวลาให้น้องหมามาเลี้ยง เราจะต้องให้เงินเจ้าของเป็นการตอบแทนไหม เงินที่ไม่ใช่การซื้อขายแต่อาจจะเป็นน้ำใจขอบคุณตามกำลังที่ผู้รับมี อาจจะเป็นกิ๊ฟการ์ดน้ำใจต่าง ๆ แต่มิสซูซานบอกว่าไม่ต้อง ขอแค่รักและดูแลน้องหมาให้ดี แค่นี้แหละที่มิสซูซานและครอบครัวต้องการ ซึ่งฉันกับคนรักซาบซึ้งน้ำใจมิสซูซานเป็นอย่างมาก หากมีโอกาสฉันก็อยากจะตอบแทนน้ำใจเธอเหมือนกัน
ครั้งแรกที่ฉันมีโอกาสได้รู้จักเจ้ากัมโบและพี่น้องพร้อมทั้งแม่ ฉันและคนรักยิ้มรับในความน่ารักของเจ้ากัมโบ เจ้ากัมโบมีน้องชายหนึ่งชื่อ โมโม และน้องสาวสองชื่อ ลูซี่และโคโค้ ส่วนพี่ชายคนโตเสียชีวิตหลังจากที่เกิดได้ไม่นาน เจ้ากัมโบน้อยจึงกลายเป็นพี่คนโตอย่างไม่ตั้งใจ และก็ตัวใหญ่กว่าพี่น้องคนอื่น ๆ แถมดื่มนมเก่งอีกต่างหาก
เจ้ากัมโบน้อย

น้องสาวโคโค้
น้องสาวลูซี่
เจ้ากัมโบน้อยมีขนสีขาวและสีน้ำตาลทองสลับสองหูด้านหน้า ส่วนตรงกลางก็มีจุดสีน้ำตาล ขนนุ่มน่ารักและน่ากอดเป็นอย่างมาก แม้จะมีอายุแค่เพียงเดือนเดียว แต่ก็ดูน่ารักน่าชังพอสมควร หนุ่มน้อยกัมโบยังไม่ได้หย่านมแม่แต่อย่างใด และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่หัดทานอาหารเพื่อน้องหมาด้วย
แววตาของเจ้ากัมโบน้อยถ้าเปรียบกับเด็ก ๆ ก็คงจะใสซื่อทีเดียว เพราะไม่ว่าฉันและคนรักอุ้มชูแค่ไหน เจ้ากัมโบก็ไม่ร้องเลยสักนิด และก็ให้อุ้มตลอด แถมเป็นหนุ่มน้อยที่น่ารัก ไม่ดื้อ ไม่งอแง บุคลิคท่าทางหาเปรียบเหมือนคนก็คงจะขรึม ๆ แต่ดูจริงจังพอสมควร
แต่ก่อนมิสซูซานและครอบครัวเรียกเจ้ากัมโบว่า "ทั้บ" (Tubbs) เพราะตัวจ้ำม้ำแต่เตี้ย ๆ และดูแข็งแรงว่าใคร ๆ พอฉันและคนรักพากันเรียกเจ้ากัมโบ ทุกคนอ้าปากค้างและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
"I love that name."
ฉันกับคนรักบอกทุกคนว่า เราย้ายมาจากมลรัฐหลุยส์เซียน่า รู้สึกว่ากัมโบเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของคนเคจั่น เป็นเอกลักษณ์ของคนเคจั่นก็ว่าได้ ครอบครัวคนรักมีความเป็นคนเคจั่นอยู่เยอะ เราจึงอยากให้เจ้ากัมโบมีชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นมาในครอบครัว ไม่ว่าจะทางไทยหรือทางเคจั่น ตอนแรกคนรักอยากให้เจ้ากัมโบชื่อไทโย/เทโย ส่วนฉันชอบชื่อ "น้ำหอม" เพราะดูแปลกดี แต่จนแล้วจนเล่าเราสองคนก็ลงเอยที่ชื่อกัมโบ เพราะสองเราชอบชื่อนี้มากเป็นพิเศษ
เมื่อวานนี้คนรักโทรไปหาเพื่อนสนิทที่เมืองนิวออร์ลีน เพื่อน ๆ ทุกคนสนับสนุนให้น้องหมาของเราชื่อกัมโบ เพราะทุกคนบอกว่าเป็นชื่อที่น่ารักที่สุด ฉันและคนรักก็เห็นด้วย เพราะว่าชื่อนี้เรียกง่ายดี และก็มีความหมายที่เป็นเอกลักษณ์ในตัว ดูไม่เหมือนชื่อของน้องหมาของคนอื่น ๆ ด้วย

วันนี้ทั้งเจ้ากัมโบและพี่น้องต่างก็พากันวิ่งเล่นสนุกสนาน ส่วนเจ้าลูลู่คุณแม่ของเจ้ากัมโบก็วิ่งมาเกาะฉันและคนรัก ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะลูบหลังของเธอเบา ๆ และก็บอกเธอว่าจะมารับกัมโบไปอยู่ด้วย ซึ่งแม่ของกัมโบดูจะเข้าใจสิ่งที่ฉันกับคนรักสื่อสาร เธอชอบให้ฉันและคนรักลูบขนเล่น และก็มองหน้าตลอด พยายามเลียแก้มฉันให้ได้ ทำให้ฉันยิ้มอยู่ตลอด หากแม่ของเจ้ากัมโบสามารถพูดได้เหมือนคนเรา เธอก็คงจะฝากฝังให้ฉันและคนรักดูแลเจ้ากัมโบน้อยให้ดี


ฉันยอมรับว่าตั้งแต่อายุสิบห้าปีจวบจนแต่งงานย้ายมาอยู่อเมริกาไม่เคยมีน้องหมาเลยสักครั้ง พอมีโอกาสได้ใกล้ชิดและรู้ว่าเจ้ากัมโบจะมาอยู่ด้วย เราสองคนก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก กะจะทำรั้วหลังบ้านให้เจ้ากัมโบได้วิ่งเล่น และในช่วงวันหยุดจะไปหาซื้อบ้านหลังน้อยให้เจ้ากัมโบได้อาศัยด้วย สนามหญ้าหลังบ้านก็จะดูแลให้ดีเพื่อให้เจ้ากัมโบได้วิ่งเล่นสนุกสนาน และก็คงจะเตรียมอะไรหลายอย่างไว้ให้เจ้ากัมโบ จะว่าไปแล้วมีเจ้ากัมโบมาอยู่ด้วยก็เหมือนมีลูกคนหนึ่งที่ต้องดูแลเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเรื่องอาหารการกิน หรือเรื่องวัคซีนต่าง ๆ พร้อมทั้งเรื่องแชมพูและถิปาถะทั่วไป แต่ฉันกับคนรักยินดีและเต็มใจที่สุดที่จะดูแลเจ้ากัมโบให้ดี


โมโมออดอ้อนจะให้มิสรอนดาอุ้มด้วย


เจ้ากัมโบน้อยดมไปทั่ว สงสัยจะตั้งใจจำกลิ่นฉันและคนรักให้ได้ แม้แต่หัวแม่...ของคนรักก็ไม่เว้น แฮ่ะ
หลังจากที่หยอกเล่นกับเจ้ากัมโบและครอบครัวได้สักพัก มิสซูซานและพี่สาวพาฉันและคนรักเดินดูต้นไม้รอบ ๆ บ้าน จากนั้นก็พาไปดูดอกไม้ป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ฉันเองก็อดไม่ได้ที่ถ่ายภาพเก็บไว้ที่ระลึก และก็มีภาพดอกไม้บางส่วนที่คุณแม่ของมิสซูซานได้ปลูกไว้ก่อนท่านเสียชีวิต
มิสซูซานและพี่สาวพากันขุดต้นกระเทียมยักษ์และเก็บเมล็ดดอกไม้ป่าให้ฉันได้มาปลูกที่บริเวณสนามหญ้าหลังบ้านด้วย ฉันเองชอบดอกไม้เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ป่าที่เกิดเองตามธรรมชาติหรือดอกไม้ที่ปลูกกันโดยทั่วไป ฉันชอบหมดเลย









ฉันกับคนรักตั้งใจว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่มิสซูซานให้ไปรับเจ้ากัมโบมาอยู่บ้านได้ เราสองคนก็จะตั้งใจเลี้ยงดูเจ้ากัมโบให้ดีที่สุด สำหรับฉันนั้นจะเลี้ยงเจ้ากัมโบแบบผสมผสาน อาจจะมีอาหารไทย ๆ ให้เจ้ากัมโบได้ทานบ้าง เผื่อให้เขาคุ้นเคยกับชีวิตครอบครัวที่ผสมผสานทางวัฒนธรรมไทยและเคจั่น ที่สำคัญอยากให้เขารู้ว่า ฉันและคนรักมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร เผื่อเจ้ากัมโบน้อยจะได้ปรับตัวตาม

ทางด้านคนรักของฉันก็มีลูกฟุตบอลน้อย ๆ อยู่หนึ่งลูก กะว่าจะเก็บไว้ให้เจ้ากัมโบวิ่งเล่น ฉันเองก็ดีใจเป็นอย่างมากที่จะมีเจ้ากัมโบมาอยู่ด้วย เพราะเวลาที่ฉันไปทำงานช่วงค่ำ คนรักจะได้มีเพื่อนเล่น อย่างน้อย ๆ ได้วิ่งเล่นออกกำลังกายในบริเวณสนามหญ้าหลังบ้านด้วยกัน ซึ่งก็คงจะทำให้คนรักไม่เหงาทีเดียว และเจ้ากัมโบก็คงจะมีความสุขไปด้วย

ฉันยอมรับว่าเห่อเจ้ากัมโบเป็นอย่างมาก พอกลับมาถึงบ้านก็ยังนึกถึงใบหน้าของเจ้ากัมโบและพี่น้องตลอด ฉันเองอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพความน่ารักและเขียนเรื่องราวของเจ้ากัมโบไว้ที่บล็อก ฉันกับคนรักตั้งใจจะดูแลเจ้ากัมโบให้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวที่ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง อยากให้เจ้ากัมโบมีชีวิตเหมือนสมาชิกในครอบครัว มีสุขร่วมสุข มีทุกข์ก็ทุกข์ และก็จะดูแลเจ้ากัมโบให้ดีที่สุด