อยู่กับคนที่คุณรัก
หรือว่าอยู่กับคนที่รักคุณ
ความแตกต่างที่มีคำตอบเสมอ
จุดจบของหัวใจ.......ผู้ชายชื่อ ฐาปกรณ์

เสียงเพลงธรณีกรรแสงบรรเลงอย่างเนื่องนิตย์ เหล่าบรรดาพวงหรีดจากญาติสนิทมิตรสหายถูกจัดวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ควันธูปอบอ่วนส่งกลิ่นไปทั่วงาน ดอกหน้าวัวและดอกกุหลาบสีขาวถูกจัดไว้ด้านหน้าอย่างสวยงาม โลงศพสีเงินตั้งตระหง่านโดดเด่นแก่ผู้มาร่วมงาน
ภาพชายหนุ่มที่คุ้นเคยส่งยิ้มอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยม ซึ่งถูกประดับด้วยดอกไม้สดอย่างสมฐานะ เหล่าบรรดาผู้คนที่มาร่วมงานต่างก็มีสีหน้าที่เศร้าหมองไปตาม ๆ กัน บางรายมีแววตาแดงก่ำซึ่งก็คงบ่งบอกได้เลยว่าร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำอีก การสูญเสียลูกชายคนโตดุจดั่งหัวใจของทุก ๆ คนในครอบครัว ถูกบดบี้แตกกระจายไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะการจากไปของชายหนุ่มที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน
แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของฐาปกรณ์ แต่ก็ยังไม่มีเงาของผู้หญิงคนนั้นโผล่หน้ามาให้เห็นเลยสักนิด ผู้หญิงที่เคยรับปากกับลดาว่าจะดูแลชายหนุ่มอย่างดีที่สุด คงมีเพียงเธอเท่านั้นที่หอบหัวใจอันบอบช้ำจากเขา เพื่อที่จะมาพบเจอตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับชายหนุ่ม
น้ำตาของหญิงสาวไหลรินอาบแก้ม ความเจ็บปวดของการจากไปของฐาปกรณ์ สร้างความเสียใจให้กับเธอใช่น้อยไปกว่าคนในครอบครัว แม้เธอจะเป็นเพียงคนนอก แต่เธอก็เป็นคนหนึ่งที่รักชายหนุ่มไม่น้อยไปกว่าใคร ๆ ที่มาร่วมงานในวันนี้
ณ เวลานั้นลดาไม่มีคำพูดใด ๆ ที่จะเอื้อนเอยออกไป คงมีแต่ความปวดร้าวที่ต้องสูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ แม้ว่าตลอดเวลาที่ชายหนุ่มมีชีวิตอยู่ เธอจะไม่เคยได้ความรักจากเขาเลย แต่เธอก็ปรารถนาให้เขามีชีวิตอยู่กับคนที่เขารัก เธอยอมที่จะพรากเป็นและเดินออกมาจากชีวิตของชายหนุ่ม เพื่อที่จะให้เขาและเธอคนนั้นมีครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกัน ดีกว่าการพรากตายอย่างนี้ และจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสได้พบเจอกันอีกเลย
ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยโกรธเคืองชายหนุ่มเลยที่ไม่เคยรักเธอ สำหรับวันนี้เธอเสียใจที่สุดก็เพราะว่า หญิงสาวที่ชายหนุ่มบอกว่ารักนักรักหนา กลับมาฆ่าหัวใจของชายหนุ่มได้ลงคอ นี่หรือคำสัญญาที่ผู้หญิงคนนั้นเคยรับปากกับเธอเอาไว้ คงมีเพียงร่างที่ไร้วิญญาณของคนที่เธอรักเท่านั้น ที่นอนแน่นิ่งอยู่ภายในโลงศพสีเงินเบื้องหน้าอย่างเจ็บปวด
ลดาเอามือปาดน้ำตาเบา ๆ โดยที่นิ่งมองดูภาพคนรักอย่างเจ็บปวด “จะกี่ปีกี่ชาติลดาก็รักพี่ฐาไม่เคยเปลี่ยน”
เธอพึมพำบอกกับตัวเองในใจ เพราะรู้สึกอย่างนั้นมาตลอด ด้วยหัวใจที่มีให้ฐาปกรณ์ทั้งหมด จึงทำให้เธอไม่เคยเปิดใจให้กับใครอีกเลย
หญิงสาวร่างบอบบางเดินมานั่งข้าง ๆ “พี่ลดาไปทานข้าวด้วยกันเถอะนะ ณัฐเห็นพี่นั่งมองรูปพี่ฐาเป็นชั่วโมงแล้ว คิดว่าพี่คงเหนื่อยและหิว เดี๋ยวณัฐหาอะไรให้พี่รองท้องดีไหมคะ?” ฐิติณัฐน้องสาวคนเล็กของฐาปกรณ์ยังคงมีมิตรไมตรีกับเธอเสมอ
เรื่องราวระหว่างลดาและฐาปกรณ์นั้น ฐิติณัฐรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แม้ว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมาลดาไม่ได้เป็นพี่สะใภ้ตามที่ฐิติณัฐคาดหวังเอาไว้ แต่ความนับถือและความคุ้นเคยที่มีให้กันนั้น ฐิติณัฐยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ลดาหันไปสบตาหญิงสาวช้า ๆ “พี่ไม่หิวหรอกณัฐ ทานอะไรไม่ลงหรอก” และก็ปฏิเสธด้วยถ้อยคำสุภาพเหมือนที่เคยทำ
หญิงสาวอ่อนวัยเฝ้ามองดูลดาด้วยความรู้สึกห่วงใย และก็อดไม่ได้ที่จะถามความจริงบางอย่างออกไป “พี่ลดารักพี่ฐามาตลอดใช่ไหมคะ?”
ความคุ้นเคยที่หญิงสาวเคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันมาเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ฐิติณัฐจะกล้าถามความจริงอย่างตรงไปตรงมา เพราะตัวเธอเองก็เจ็บปวดไม่น้อยที่ฐาปกรณ์เลือกผู้หญิงอีกคนซึ่งไม่ใช่ลดา โดยที่ฐาปกรณ์ให้ลดาเป็นได้แค่เพียงเพื่อนเท่านั้น ฐิติณัฐรับรู้ว่าลดาเจ็บปวดเสียใจแค่ไหน กับการกระทำที่ฐาปกรณ์มีให้ที่ผ่านมา
คำถามของฐิติณัฐทำให้น้ำตาของหญิงสาวไหลรินอีกครั้ง เธอสูดลมหายใจอย่างช้า ๆ
“พี่รักพี่ฐา และก็รักที่จะเป็น เหมือนที่พี่ฐาอยากจะให้พี่เป็น”
เสียงเบา ๆ ออกมาจากริมฝีปากที่ได้รูป หากไม่ตั้งใจฟังจริงๆ จะไม่รู้เลยว่านี่คือความจริงที่เธอเอ่ยออกไป คนที่ตอบคำถามรู้ดีว่าความรักไม่ได้วัดกันที่หน้าตาแต่อย่างใด แต่ความรักมันมอบให้กันได้ด้วยหัวใจที่ต้องการเท่านั้น
ตลอดเวลาที่รู้จักกัน ฐาปกรณ์ไม่เคยรักลดามากไปกว่าคำว่าเพื่อน แม้ว่าเธอและเขาจะมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง แต่ความสัมพันธ์เหล่านี้ก็ไม่เคยทำให้ฐาปกรณ์เปลี่ยนฐานะของเธอให้เป็นคนรักได้เลย แน่นอนลดาเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีของเขาเท่านั้น และเธอเองก็รู้ตัวเองมาตลอด พร้อมทั้งยอมรับที่จะเป็นอะไรก็ได้ที่ฐาปกรณ์อยากให้เธอเป็น
หญิงสาวเอื้อมมือมาจับแขนลดาเบา ๆ “ขอบคุณพี่ลดามากนะคะ ที่รักพี่ฐามาตลอด แม้พี่ฐาจะโชคร้าย แต่พี่ฐาก็โชคดีที่มีผู้หญิงอย่างพี่มอบหัวใจให้เสมอมา”
ลดาสบตาหญิงสาวด้วยความเอ็นดู “แม้ในโลกนี้จะไม่มีพี่ฐา แต่พี่ฐาก็ยังอยู่ในหัวใจพี่เสมอ”
“ถ้าภรรยาพี่ฐาได้สักครึ่งของพี่ลดาก็คงจะดีนะคะ” ฐิติณัฐรู้สึกเจ็บปวดหัวใจทุกครั้งที่นึกถึงผู้หญิงคนนั้น
ลดาหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับผู้หญิงที่ฐิติณัฐบ่นถึงทันที “แล้วคุณศิยาไม่มางานศพของพี่ฐาเหรอจ๊ะ”
แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะได้หัวใจของฐาปกรณ์ไปครอง แต่ลดาก็ยังคงเคารพและให้เกียรติศิยามาตลอด ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เพราะหัวใจของเธอที่บอกกับตัวเองเสมอว่า เธอจะต้องรักและให้เกียรติกับทุกคนที่ฐาปกรณ์รัก
“อย่าคาดหวังเลยว่าพี่ศิยาจะมางานศพของพี่ฐา ขนาดยังไม่ทันได้หย่าขาดกับพี่ฐา ครอบครัวของพี่ศิยาก็หาผู้ชายคนใหม่ให้พี่ศิยาไว้ก่อนแล้ว สงสารแต่พี่ฐานี่สิ ไม่เสียใจเปล่าแต่เหมือนถูกหยามหัวใจไปด้วย”
คำตอบของฐิติณัฐทำให้ลดาสงสารฐาปกรณ์อย่างจับใจ และเธอก็เจ็บปวดทุกครั้งที่รู้ว่าเขาเสียใจ ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาที่ฐาปกรณ์ทิ้งเธอให้อยู่คนเดียว และห้าปีที่เธอไม่เคยติดต่อไปหาฐาปกรณ์เลย ไม่ใช่ว่าเธอหมดรักเขาไปแล้ว แต่เพราะเธอไม่ต้องการให้ศิยาเข้าใจผิดและมีปัญหาบาดหมางใจกันกับฐาปกรณ์นั่นเอง เธอยอมที่จะเป็นฝ่ายไปและยืนอยู่ที่เดิมเพียงคนเดียว และก็ได้แต่เฝ้ามองชีวิตคู่ของฐาปกรณ์อย่างห่วงใยมาตลอด
แม้เรื่องราวจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ความผูกพันระหว่างเธอและฐาปกรณ์มันยังฝังแน่นอยู่ในหัวใจเธอมาตลอด ขนาดที่ว่าเธอไม่สามารถรักผู้ชายคนไหนได้อีกเลย
“ถ้าลดารักพี่ ลดาก็ต้องทำเพื่อพี่ได้ทุกอย่างสิครับ” คำพูดของฐาปกรณ์ในคืนวันแห่งความรักเมื่อห้าปีที่ผ่านมา ทำให้เธอต้องตกเป็นของฐาปกรณ์ด้วยความเต็มใจ
ใช่สิเธอรักฐาปกรณ์หมดหัวใจ และยอมมอบความสาวให้ฐาปกรณ์ เพียงเพื่อต้องการแสดงให้เขารู้ว่าเธอรักเขาจริง ฐาปกรณ์คือรักแรกและเป็นผู้ชายคนแรกของลดา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ลดายอมทำผิดต่อครอบครัวเพียงเพื่อผู้ชายที่เธอรักเท่านั้น
“ลดารักพี่ฐาค่ะ พี่ฐารักลดาบ้างไหมคะ?” เมื่อตกเป็นของเขาแล้ว มีหรือที่จะไม่อยากรู้ว่าหัวใจของฐาปกรณ์เคยมีเธอบ้างหรือเปล่า
“ถ้าไม่รักก็คงไม่ทำแบบนี้หรอกนะ”
มันไม่ใช่คำตอบตรง ๆ ที่ฐาปกรณ์บอกกับเธอ แต่คำ ๆ นี้ก็ทำให้เธอเชื่อสนิทว่าฐาปกรณ์ก็รักเธอไม่น้อยไปกว่ากัน การได้เสียกันและกันมันเหมือนคำมั่นสัญญาอย่างหนึ่งของคนที่รักกัน โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเธอแล้ว คาดหวังและต้องการฝากชีวิตไว้กับฐาปกรณ์เพียงคนเดียวเท่านั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขายังคงไปมาหาสู่กันมาตลอด จวบจนวันสุดท้ายที่ฐาปกรณ์สอบบรรจุราชการได้ และต้องย้ายไปรับราชการที่บ้านเกิดของตนเอง ซึ่งส่วนตรงนี้ก็คือลางสำคัญที่บอกให้รู้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาจะต้องแยกจากกันแน่นอน
“พี่สอบได้และไม่อยากทิ้งโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป ลดาเข้าใจพี่นะครับ” ฐาปกรณ์อยากทำงานในตำแหน่งนี้มานานแสนนาน และลดาก็รู้ดีมาตลอด
ค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงที่ดูสวยงามกว่าคืนไหน ๆ พิเศษสุดค่ำคืนในวันนั้นก็เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่เธอและเขาเป็นของกันและกันด้วย วันนี้เป็นวันแห่งความรักที่ทุก ๆ คู่รักล้วนแต่มีความสุขด้วยกัน แม้แต่ลดาเองก็เฝ้ารอว่าฐาปกรณ์จะต้องซื้อกุหลาบสวย ๆ มาฝากเธอเหมือนคู่รักคนอื่น ๆ แต่เมื่อพบเจอหน้ากันอีกครั้ง ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป
และสิ่งที่เธอคาดหวังกลับไม่เป็นเหมือนที่คิดเลยสักนิด ค่ำคืนนี้ไม่มีกุหลาบสวยๆ และไม่มีแม้กระทั่งการออกไปทานอาหารข้างนอกด้วยกัน คงมีเพียงความรู้สึกของคนสองคนที่รู้ว่าจะต้องจากกัน โดยเฉพาะเธอซึ่งดูเหมือนจะเจ็บปวดกว่าเขา เมื่อรู้ว่างานที่เขาสอบได้นั้นมันสำคัญมากกว่าตัวเธอเสียอีก
ด้วยหัวใจที่รักเขาหมดใจ ลดายอมฐาปกรณ์ได้ทุกอย่าง “แล้วพี่ฐาจะกลับมาหาลดาบ้างไหมคะ ลดาจะรอพี่ฐาอยู่ที่นี่นะคะ”
แม้จะต้องจากกันไปไกลแค่ไหน แต่สิ่งที่เธอต้องการก็คงไม่มีอะไรไปมาก นอกเสียจากจะขอให้เขามีเธออยู่บ้าง เหมือนที่เธอมอบความรัก ความซื่อตรง และความจริงใจให้เขามาตลอด
ค่ำคืนสุดท้ายที่ลดามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับฐาปกรณ์ คืนที่เธอสุขและทุกข์ปะปนกันไป อ้อมแขนของฐาปกรณ์ยังอบอุ่นเหมือนเดิม แม้ว่าในใจจะรู้ว่าพรุ่งนี้ต่อไปอาจจะไม่ได้สัมผัสอ้อมอกอันอบอุ่นของชายหนุ่มอีกแล้ว แต่เธอก็จะเก็บเกี่ยวความสุขของคืนนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหลังจากพรุ่งนี้ต่อไปเธออาจจะไม่มีวันนี้อีกเลยก็ได้
ในช่วงแรก ๆ ที่ย้ายกลับไปที่บ้านเกิดของตัวเอง ฐาปกรณ์ก็ยังคงติดต่อโทรมาพูดคุยกับลดาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยครั้งเหมือนที่เคยทำ ในบางครั้งที่ลดาโทรเข้ามือถือของฐาปกรณ์ แต่ก็ไม่มีคนรับสาย ซึ่งเธอก็ทำได้แต่ฝากข้อความเอาไว้เท่านั้น และมาช่วงหลัง ๆ ลดาเริ่มรับรู้ว่าฐาปกรณ์เปลี่ยนไป ซึ่งลดาก็ไม่เคยคิดจะลงไปหาฐาปกรณ์ที่บ้านเกิดแต่อย่างใด เพราะฐาปกรณ์ไม่เคยชวนและไม่เคยให้ที่อยู่ไว้ด้วย ในเมื่อฐาปกรณ์เป็นคนที่เดินจากไปในชีวิตของเธอ ดังนั้นเธอจะรอให้เขาเดินกลับมาหาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งหัวใจของเขาที่มีให้เธอด้วย
หนึ่งปีผ่านไปกับหัวใจที่เฝ้ารออย่างปวดร้าว จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ลดาเป็นยังไงบ้าง” เธอยังคงจำเสียงชายหนุ่มได้เสมอ ในช่วงเวลานั้นเสียงของฐาปกรณ์เปรียบดั่งเสียงสวรรค์ที่เธอเฝ้ารอคอยมาเป็นปี
“ลดาสบายดีค่ะ พี่ฐาเป็นยังไงบ้างคะ” ไม่ว่าเขาจะจากไปนานแค่ไหน เธอก็ยังรักและห่วงใยเขาเหมือนเดิม
“พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะขอร้องลดานะ ลดาช่วยพี่ได้ไหม” หากการโทรมาในครั้งนี้เป็นคำขอร้องจากฐาปกรณ์แล้ว มีหรือที่เธอจะทำเพื่อเขาไม่ได้
“พี่ฐามีอะไรคะ? บอกลดามาได้เลยค่ะ ลดายินดีทำเพื่อพี่ได้ตลอด” ด้วยหัวใจที่มีให้เขาเต็มเปี่ยม เธอยินดีเป็นเบี้ยหัวใจให้ฐาปกรณ์เสมอ และก็ไม่เคยแบ่งใจให้ใครอีกเลย
“คือพี่มีแฟนแล้วนะ บังเอิญแฟนพี่เข้าใจผิดหาว่าพี่กับลดาเป็นแฟนกัน ลดาช่วยคุยกับแฟนพี่ให้หน่อยสิ ถือว่าเป็นการขอร้องจากพี่นะครับ” คำตอบของฐาปกรณ์คือความเจ็บปวดในรอบสีปีที่ลดาพบเจอ
เมื่อผู้หญิงคนนั้นคือแฟนของฐาปกรณ์ แล้วเธอล่ะอยู่ในฐานะอะไร “แล้วลดาล่ะคะพี่ฐา? ลดาอยู่ในฐานะอะไรคะ?”
ความอ่อนแอที่พยายามซ่อนเอาไว้ในใจมาตลอด ก็ไม่สามารถปิดกั้นเอาไว้ได้อีกเลย เธอไม่มีความเข้มแข็งเหลือไว้อีกแล้ว และสุดท้ายน้ำตาของความอ่อนแอก็ไหลรินออกมาอีกครั้ง หลังจากที่เหือดหายไปนานหลายปี
“ลดาก็เป็นเพื่อนพี่ยังไง เป็นเพื่อนที่พี่รักและไว้ใจมาตลอด” ฐาปกรณ์ดูจริงจังกับคำพูดของตัวเองไม่น้อย ซึ่งก็คงไม่ต่างกับคำสั่งของสวรรค์ที่บอกให้เธอรู้ว่า ตัวเธอเองอยู่ในฐานะอะไร ความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อกันไม่สามารถผูกมัดหัวใจของเขาให้รักเธอได้เลยสักนิด
เธออ้ำอึ้งไปสักพัก “หากนี่คือความต้องการของพี่ฐา ลดาก็ยินดีทำเพื่อพี่ค่ะ”
แน่นอนหัวใจของเธอมันสลายไปหมดแล้ว มันเจ็บช้ำเกินที่จะทนได้ แต่ใครจะรู้ว่าเธอกัดฟันทนกับความเจ็บปวดเหล่านี้ เพียงเพื่อช่วยเหลือคนรักให้สมหวังกับผู้หญิงคนนั้น ถ้าเพื่อฐาปกรณ์แล้วลดาทำได้ทุกอย่าง
เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับศิยาผู้หญิงที่ฐาปกรณ์รัก ลดาก็กลายเป็นคนที่พูดแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยที่ไม่มีคำใด ๆ เอื้อนเอ่ยจากศิยาเลยสักนิด และคำสุดท้ายที่ลดาฝากบอกศิยาเอาไว้
“ฝากดูแลพี่ฐาด้วยนะคะ สัญญานะคะว่าจะรักพี่ฐาให้มากที่สุด”
“ค่ะ ศิยาสัญญาค่ะ” และมันก็เป็นเพียงคำสัญญาครั้งสุดท้ายที่ผู้หญิงคนนั้นได้ให้ไว้กับเธอ ก่อนที่จะวางสายจบการสนทนา โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับฐาปกรณ์อีกเลย คงมีแต่เพียงความเจ็บปวดและน้ำตาเท่านั้นที่เป็นเพื่อนคอยปลอบโยนมาตลอด
แม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหน เธอก็ไม่เคยหยุดรักฐาปกรณ์ไปได้เลย ชีวิตก็มีแต่งานและหัวใจที่แอบคิดถึงฐาปกรณ์เท่านั้น เธอยังคงเก็บตัวเองอยู่ในภาพความทรงจำเก่า ๆ และก็ไม่เคยเปิดตัวเปิดใจให้ผู้ชายคนไหนอีกเลย เธอรักและพอใจกับชีวิตอยู่อย่างนี้เป็นที่สุด
ห้าปีผ่านไปที่เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ กับห้าปีที่ไม่มีแม้แต่เสียงของฐาปกรณ์โทรมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของเธอเลย คงมีเพียงเธอเท่านั้นที่รับรู้ข่าวคราวของฐาปกรณ์และผู้หญิงคนนั้นจากเพื่อนสนิทอยู่บ้าง โดยที่เธอเลือกที่จะรับรู้ความเป็นไปของฐาปกรณ์และผู้หญิงคนนั้นแต่เพียงฝ่ายเดียว และก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตคู่ของฐาปกรณ์เลยแม้แต่นิดเดียว
อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ลดาฝันเห็นฐาปกรณ์ทุกค่ำคืน จะนอนพลิกหัวหรือตื่นมาสักกี่รอบก็ไม่สามารถลบภาพฐาปกรณ์ไปจากความฝันได้เลย เมื่อใดที่กลับไปนอนต่ออีกก็ยังคงมีแต่ภาพฐาปกรณ์ล่องลอยมาในความฝันอยู่อย่างนั้นตลอด ด้วยความผูกพันและความรักที่มีให้เขาเสมอมา ดังนั้นลดาจึงคิดว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติกับฐาปกรณ์แน่นอน
ในตอนนั้นลดาตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่เคยคุ้นเคยในอดีต พอเสียงสัญญาณดังสามครั้งก็มีคนรับสาย
“สวัสดีครับ” เสียงชายหนุ่มไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ยังคงเหมือนกับวันแรกที่เธอได้ยินและพบเจอเขาที่บ้านเพื่อนสนิท
“พี่ฐาสบายดีไหมคะ” ด้วยความที่รู้ตัวว่าอยู่ในฐานะอะไร และไม่อยากเป็นส่วนเกินชีวิตรักของฐาปกรณ์กับผู้หญิงคนนั้น จึงเลือกที่จะทักทายด้วยถ้อยคำธรรมดาทั่วไป
“อ้าวลดาเหรอนี่!” คำพูดของฐาปกรณ์ดูเหมือนดีใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าเธอโทรมาหา
“ค่ะ ลดาเองค่ะ พี่ฐาสบายดีนะคะ” ความผูกพันที่เคยคุ้นเคย ระยะเวลาและความเจ็บปวดที่ได้รับ ทำให้เธอทิ้งระยะห่างระหว่างเธอและเขาไว้ตลอด
“คิดยังไงถึงโทรมาหาพี่ ลดาไม่ติดต่อมาหาพี่นานมากเลยรู้ไหม” ฐาปกรณ์รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำทุกอย่างให้ตัวเองมาตลอด และก็ตำหนิเหมือนกับว่าเธอผิดที่ไม่ติดต่อมาหาเขาเลย
“ลดาไม่อยากโทรมา ไม่ต้องการให้พี่และแฟนเข้าใจผิดค่ะ” เธอรู้สึกอย่างไรก็ตอบไปตามความจริง
“ถึงไม่มีลดา ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมแล้วแหละ พี่กับศิยากำลังจะหย่ากัน” คำบอกเล่าของฐาปกรณ์ทำให้เธอรู้ได้เลยว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป
“เกิดอะไรขึ้นคะ? พี่ฐากับคุณศิยาก็รักกันดีไม่ใช่หรือคะ?” เมื่อรู้ว่าความรักระหว่างเขาและผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนไป ตัวเธอเองก็อดสงสัยไม่ได้
“ก็ไม่มีอะไรหรอกนะ ลดาคงไม่เคยรู้ว่าศิยาไม่ใช่คนพุทธเหมือนพวกเรา ศิยานับถือศาสนาอิสลาม เมื่อพี่แต่งงานกับศิยา พี่ก็ต้องเปลี่ยนศาสนาเหมือนศิยา ลดารู้ไหมพี่จะต้องเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตเพื่อศิยาโดยเฉพาะ แม้จะต้องเลิกคบกับเพื่อนฝูงและห่างเหินจากพ่อแม่พี่น้องทุกคน พี่ก็ทำเพื่อศิยามาตลอด แต่พี่ทนไม่ได้อย่างหนึ่งก็ตรงที่ศิยาไม่ช่วยพี่ทำมาหากินเลย วัน ๆ เอาแต่นั่งและนอน ไม่พอแค่นั้นก็ขอให้พี่ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ตลอด บวกทั้งพ่อกับแม่ของศิยาก็บอกกับพี่ไว้ว่า ถ้าพี่ไม่มีบ้านหลังใหญ่โตและมีรถหรู ๆ ขับ พวกเขาก็จะไม่ยอมให้ศิยาอยู่กับพี่ และก็เป็นจริง ศิยากำลังเดินไปจากชีวิตของพี่ ที่เหลืออยู่ก็คือการเซ็นต์ใบหย่าเท่านั้น”
ฐาปกรณ์รู้ว่าลดาคือผู้หญิงคนเดียวที่เขาสามารถพูดคุยระบายความในใจได้ทุก ๆ เรื่อง ทุกครั้งที่เขาเจ็บปวดเสียใจ ลดาก็มักจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่คอยปลอบโยนและให้กำลังใจแก่เขามาตลอด
“พี่ฐาอยากจะหย่ากับคุณศิยาจริงๆ เหรอคะ? คิดให้ดี ๆ นะคะ พี่ฐารักคุณศิยาขนาดนั้น มีอะไรค่อยๆ คุยกันไม่ดีเหรอคะ? อย่าทำอะไรตามอารมณ์ของตัวเอง ยังไงคุณศิยาก็คือความรักของพี่นะคะ”
ที่จริงลดาควรจะดีใจที่ฐาปกรณ์และศิยากำลังจะหย่ากัน แต่เธอกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เธอรู้ว่าฐาปกรณ์รักศิยามากแค่ไหน ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุดก็คือคอยปลอบโยนและให้กำลังใจเท่านั้น
“แต่พี่ไม่ใช่นายธนาคารให้ศิยาและครอบครัวรีดไถ่นะ พี่กดดันมาตลอดลดารู้ไหม พี่เหนื่อยและท้อเหลือเกิน พี่ยอมอยู่คนเดียวดีกว่าที่จะมีครอบครัวอยู่อย่างนี้” คำตอบของชายหนุ่มทำให้เธอนิ่งเงียบไปสักพัก
ฐาปกรณ์ทำเพื่อศิยาทุกอย่าง เพื่อให้ศิยามีความสุข ทุก ๆ สิ่งที่ศิยาเรียกร้องฐาปกรณ์ก็มักจะหามาให้ตลอด ซึ่งต่างกับเธอที่ไม่เคยขออะไรจากฐาปกรณ์เลยสักนิด สิ่งเดียวที่เธอเคยขอเขาเป็นครั้งสุดท้ายนั้น มันได้ตายไปหมดแล้ว คงเหลือแค่ซากความเจ็บปวดที่มันปักอยู่ในหัวใจคอยย้ำเตือนเธอมาตลอด
“ลดาก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าลดาให้กำลังใจพี่ฐาและคุณศิยานะคะ ขอให้ปรับความเข้าใจกันให้ดีนะคะ” คำตอบของเธอเหมือนการตัดบทการสนทนาระหว่างเธอและเขาอย่างง่ายดาย
“ลดาเชื่อใจพี่หรือเปล่า” ไม่รู้ด้วยเหตุผลอันใด ฐาปกรณ์เลือกที่จะถามคำนี้ต่อเธอ
หญิงสาวนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของเขา จนทำให้ชายหนุ่มต้องถามซ้ำอีกครั้ง “ลดาเชื่อใจพี่ไหมครับ”
เมื่อถูกถามซ้ำสองครั้ง ก็อดไม่ได้ที่จะบอกไปตามความจริง “ลดาเชื่อใจพี่ฐาค่ะ และก็ยอมรับการตัดสินใจของพี่ทุกอย่างค่ะ”
“แล้วลดายังรักพี่ไหมครับ” ฐาปกรณ์รู้อยู่เต็มอกว่าลดารักตัวเองมากแค่ไหน แต่ก็ยังอยากจะถามซ้ำ ๆ เหมือนเดิม
เธอไม่ตอบคำถามของฐาปกรณ์ และเลือกที่จะตอบเหมือนที่เขาเคยมีให้กับเธอ
“อย่าถามเลยว่าลดารักพี่หรือเปล่า เพียงแต่ลดาอยากให้พี่รับรู้ไว้ว่า ลดาไม่มีวันลืมพี่ไปได้เลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันจบไปแล้วค่ะ” ไม่ตอบเปล่าแต่น้ำใส ๆ ไหลรินอย่างไม่มีเหตุผล
“พี่ผิดมาตลอด ยอมรับว่าเลือกผิดมาตั้งแต่ต้น” คำพูดของฐาปกรณ์เรียกน้ำตาของลดาออกมาอย่างท้วมท้น เธอไม่เคยต้องการคำขอโทษจากเขาเลยสักนิด เธอเพียงต้องการให้เขาและคนรักมีชีวิตที่มีความสุขเท่านั้น
“มันผ่านไปนานแล้ว พี่ฐาอย่าไปโทษตัวเองนะคะ พี่จะต้องดูแลตัวเองและคนที่พี่รักให้ดีที่สุด ลดาขอเป็นกำลังใจให้พี่นะคะ” นี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการและอยากให้ฐาปกรณ์ทำมากที่สุด
“ลดาเองก็ดูแลตัวเองบ้างนะ พี่เป็นห่วงลดาใช่น้อยไปเลย พี่เองก็ไม่รู้จะมีชีวิตอีกนานแค่ไหน งานที่พี่ทำก็เสี่ยงเสียด้วย”
ฐาปกรณ์พูดเหมือนกับต้องการให้เธอรู้ว่า อนาคตข้างหน้าอาจจะไม่มีสำหรับเขา เพราะการทำงานที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ก็คงเสี่ยงไม่น้อยกับเรื่องอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
“พี่ฐาคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่าไปคิดมากนะคะ” กำลังใจที่เธอมีให้เขานั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ เธอก็หยิบยื่นให้ฐาปกรณ์ไม่เคยเบื่อ
“เป็นไปได้ไหมถ้าพี่อยากเจอลดาอีกครั้ง” คำพูดของฐาปกรณ์เหมือนคำขอร้องครั้งสุดท้าย
แม้ว่าลดาจะเคยเจ็บช้ำจากฐาปกรณ์มากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธหัวใจของตนเองได้ “ค่ะ ถ้าบุญมีเราคงได้เจอกันอีกครั้ง ลดาขอตัวนะคะ พี่ฐาดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
และนั่นก็คือการสนทนาครั้งสุดท้ายที่ลดาและฐาปกรณ์ได้พูดคุยกัน การได้พูดคุยกันอีกครั้งทำให้เธอทั้งสุขและทุกข์มากมาย และที่เจ็บไปกว่านั้นก็เมื่อรู้ว่าชีวิตคนที่เธอรักไม่สมหวังอย่างที่ตั้งใจ
ผู้หญิงคนนั้นรักฐาปกรณ์ด้วยข้อแม้หลาย ๆ อย่าง แต่เธอนี่สิ รักฐาปกรณ์โดยที่ไม่มีข้อแม้เลยสักอย่าง แม้ว่าวันนี้เธอจะต้องมานั่งอยู่หน้าโลงศพของฐาปกรณ์ แต่เธอก็มาหาเขาด้วยหัวใจที่รักชายหนุ่มมาตลอด ความรักของเธอที่มีให้ฐาปกรณ์นั้น มันไม่สามารถวัดได้เลยว่ามากน้อยแค่ไหน แต่มันเป็นเพียงความรักที่ฐาปกรณ์ไม่เคยรับรู้เท่านั้น และมันก็คงเป็นเพียงความรักที่ฐาปกรณ์มองข้ามพร้อมทั้งไม่เคยเห็นคุณค่ามันเลย
ค่ำคืนวานนี้เธอฝันเห็นฐาปกรณ์ตลอดทั้งคืน จิตใจของเธอเป็นกังวลกับเขาเหมือนเดิม ความรู้สึกที่เคยเป็นอยู่นั้น ทำให้เธอรู้ได้เลยว่าบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับฐาปกรณ์แน่นอน เธอไม่ได้รอให้ความฝันผ่านเข้ามาในชีวิตครบเจ็ดวันเหมือนที่เคยเป็น แต่เธอตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปที่บ้านของฐาปกรณ์ทันที
เมื่อสัญญาณสายว่างสองครั้งก็มีคนรับสาย “สวัสดีค่ะ ขอสายพี่ฐาหน่อยคะ”
หญิงสาวคนต้นสายอ้ำอึ้งสักพัก “คุณเป็นใครคะ ทำไมจึงอยากคุยกับพี่ฐาคะ?”
เมื่อถูกถามอย่างนั้น ลดารู้ว่าจะต้องแจ้งให้คนรับสายทราบแน่นอน “ชื่อลดาค่ะ เป็นเพื่อนพี่ฐานะคะ พี่ฐาอยู่บ้านไหมคะ”
“พี่ลดา! พี่ลดาจริงๆ ด้วย” สิ้นเสียงเรียกชื่อของเธอ ลดาก็ได้ยินเสียงร้องไห้จากหญิงสาวต้นสายเหมือนกับดีใจที่เธอโทรมาหา
“ใช่ฐิติณัฐหรือเปล่าจ๊ะ?” ลดายังคงจำเสียงน้องสาวคนเล็กของฐาปกรณ์ได้บ้าง แม้จะไม่ได้พูดคุยกันบ่อย ๆ แต่เธอก็ไม่สามารถลืมสาวน้อยคนนี้ไปได้เลย
“พี่ลดาคะ พี่ลดาฟังณัฐดี ๆ นะคะ ณัฐมีเรื่องจะบอกพี่ค่ะ” เสียงสะอื้นของหญิงสาวทำให้ลดาแปลกใจไม่น้อย
เมื่อรู้ว่าฐิติณัฐร้องไห้ ลดาก็ใจไม่ดีเอาเสียเลย “ณัฐมีอะไรจะบอกพี่อย่างนั้นหรือ บอกมาเถอะ พี่รับได้ทุกอย่าง” ชีวิตของลดาผ่านความเจ็บปวดมามาก จะกี่เรื่องราวเธอก็รับได้ตลอด และก็สามารถยืนอยู่ได้จนทุกวันนี้
“พี่ฐาไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้วนะคะ พี่ฐาเสียชีวิตเมื่อวานนี้ค่ะ” สิ้นเสียงของฐิติณัฐ น้ำตาของลดาก็ไหลรินออกมาทันที ในช่วงเวลานั้นหัวใจของเธอเหมือนมีคมมีดมากรีดเฉือนเป็นชิ้น ๆ ให้เจ็บปวดอย่างสาหัส แน่นอนใจของเธอมันเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ก็คงตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชีวิตของเธอในวันนี้ก็คงไม่ต่างกับคนที่ตายทั้งเป็น
เสียงสะอื้นเล็ดลอดอยู่อย่างเนื่องนิตย์ “เกิดอะไรขึ้นกับพี่ฐาเหรอณัฐ”
“พี่ฐาประสบอุบัติเหตุค่ะ หลังจากที่หย่าขาดกับพี่ศิยาได้ปีกว่า พี่ฐาก็ไม่เป็นผู้เป็นคนเลย หลังเลิกงานก็เมากลับบ้านตลอด ยิ่งรู้ว่าพี่ศิยาแต่งงานกับผู้ชายคนใหม่ สภาพจิตใจพี่ฐาแย่มาก ๆ เลย ทุกครั้งที่เมาก็บ่นพึมพำขอโทษพี่ลดามาตลอด พูดแต่ว่าเสียใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองได้ทำลงไป ณัฐไม่รู้ว่าพี่ฐาเคยทำอะไรให้พี่ลดาเสียใจบ้าง มาช่วงหลัง ๆ ณัฐก็เห็นพี่ฐาหยิบรูปพี่ลดามาดูบ่อย ๆ ที่แปลกไปกว่านั้นก็เมื่อสองวันก่อนค่ะ พี่ฐาเข้ามาคุยกับณัฐว่าจะขึ้นไปหาพี่ลดา และมีการบอกว่าจะไปเซอร์ไพร้พี่ลดาด้วย ณัฐไม่เคยคิดเลยว่า เย็นวันนั้นหลังเลิกงานจะเป็นวันสุดท้ายของพี่ฐา ณัฐอยากให้พี่ฐาได้พบกับพี่ลดาเสียก่อนที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ค่ะ ” พูดจบฐิติณัฐก็ร้องไห้สะอื้นทันที โดยที่คนต้นสายก็ร้องไห้ไปด้วย
ใช่สิแม้ว่าเรื่องราวความเจ็บปวดจะผ่านมาหลายปีแล้ว หัวใจของลดาก็ยังรักฐาปกรณ์ไม่เคยเจือจาง และวันสุดท้ายของฐาปกรณ์เธอก็ได้รู้ว่า เธอยังคงมีความสำคัญกับฐาปกรณ์อยู่เสมอ แม้ว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมาเธออาจจะดูไร้ค่ากับฐาปกรณ์ไปบ้าง แต่อย่างน้อย ๆ วันสุดท้ายที่ฐาปกรณ์ยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วฐาปกรณ์ก็ต้องการอยากพบเจอเธอเช่นเดียวกัน
ท่ามกลางเสียงร้องไห้จากญาติสนิทมิตรสหายที่รัก ท่ามกลางเปลวไฟในเมรุที่ร้อนแรง แต่ฐาปกรณ์ก็คือผู้ชายที่โชคดีที่สุด แม้ว่าร่างกายจะมอดไหม้และกลายเป็นผงธุลีไปแล้ว ฐาปกรณ์ก็ยังอยู่ในใจของลดามาตลอด และลดาก็ไม่เคยรักใครอีกเลย แม้ว่าความจริงในวันนี้จะไม่มีฐาปกรณ์อยู่ในโลก แต่ชื่อและหัวใจของฐาปกรณ์ ก็ยังคงจารึกอยู่ในใจของลดาเสมอ ตราบชั่วนิจนิรันดร์